Audi E-Tron GT 2022
ราคาเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท!!! (ขายที่ต่างประเทศนะ)
Audi เพิ่งอวดโฉมผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดในรุ่นที่ใช้ระบบไฟฟ้าอย่างเดียว นั่นคือรถซีดาน 4 ประตูรูปทรงเพรียวบางพร้อมแนวหลังคาที่ต่ำและเส้นสายสไตล์ Coupe ที่มีชื่อว่า e-tron GT ซึ่งเป็นหนึ่งในการออกแบบของ Audi ที่โดดเด่นที่สุด
e-tron GT มีเป้าหมายที่จะสร้างความสมดุลระหว่างการใช้งานในชีวิตประจำวันกับสมรรถนะแบบสปอร์ต เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายที่จะนำมาเป็นคู่แข่งที่สำคัญทั้ง Tesla Model S และ Porsche Taycan ซึ่งแน่นอนว่ามันถูกสร้างบนแพลตฟอร์มประสิทธิภาพสูง J1 ระดับ Hi-End ของ Volkswagen Group ที่ออกแบบโดย Porsche จึงทำให้ e-tron GT ใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกับ
Taycan
Audi e-tron GT มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นปกติและรุ่นสมรรถนะสูง RS โดยนับเป็นหนึ่งในรถยนต์ Production ที่ทรงพลังที่สุดของ Audi
ซึ่งในทุกรุ่นจะมีการตั้งค่าระบบไฟฟ้าทั้งหมดแบบมอเตอร์คู่พร้อมระบบเกียร์ 2 จังหวะและสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V ใหม่ของ Audi ซึ่งช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้น ในขณะที่แบตเตอรี่ขนาด 86 kWh ก็คาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถวิ่งได้ไกงถึง 488 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามข้อกำหนดของยุโรป
ตามความหมายของชื่อ e-tron GT ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการเดินทางไกล แม้ตัวรถจะมีแนวหลังคาที่ต่ำและกว้าง แต่ Audi อ้างว่า e-tron GT สามารถนั่งได้ 4 ที่นั่งและมีพื้นที่ส่วนหัวที่กว้างขวาง ในขณะเดียวกันก็มีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 405 ลิตร โดยเพิ่มอีก 85 ลิตรไว้ด้านหน้าของรถ
การออกแบบภายนอกประกอบด้วยล้อขนาดใหญ่, ฐานล้อที่ยาวและท่าทางที่ค่อนข้างเตี้ยและแบน ที่ส่งผลให้ e-tron GT ดูสปอร์ต ส่วนด้านหลังที่เด่นชัดเรียกว่า “Quattro Blisters” ในขณะที่ด้านหลังก็มีการออกแบบไฟใหม่พร้อมภาพเคลื่อนไหวอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของ Audi ในการสร้างประสบการณ์ที่เหมือนรถสปอร์ต ตำแหน่งที่นั่งจะอยู่ในระดับต่ำ หน้าจอตรงกลางทำมุมเข้าหาคนขับ ในขณะที่ปรัชญาการออกแบบ “lightweight” มีอิทธิพลต่อคอนโซลกลางและแผงหน้าปัดเพื่อสร้างความรู้สึกกว้างขวาง
Audi อ้างว่าการออกแบบภายนอกของ e-tron GT ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการทำงานร่วมกันระหว่างนักออกแบบและนักอากาศพลศาสตร์ ซึ่ง Audi อ้างว่า e-tron GT มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียด ทาน (cd) ที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขาด้วยตัวเลข 0.24 ที่มาจากคุณสมบัติต่างๆ เช่น ม่านอากาศ, ช่องอากาศรอบๆล้อ, พื้นผิวที่เรียบและดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังที่ช่วยลดการยก
อีกจุดหนึ่งที่ Audi กล่าวว่าพวกเขาได้ใช้การโฟกัสเป็นพิเศษคือ Aeroacoustics ด้วยการใช้เวลาหลายชั่วโมงในอุโมงค์ลม ที่ Audi อ้างว่าได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับ A7 แบบน่าประทับใจ
Audi e-tron GT quattro รุ่นเริ่มต้นมีกำลังขับรวม 476 แรงม้าและแรงบิด 630 นิวตันเมตร ในขณะที่รุ่น RS e-tron GT มีกำลังขับที่สูงกว่าที่ 589 แรงม้าและแรงบิด 830 นิวตันเมตร สำหรับตลาดยุโรป
ในฝั่งอเมริกา Audi e-tron GT quattro จะมีกำลัง 469 แรงม้าและแรงบิด 629 นิวตันเมตร ที่จะเพิ่มเป็น 522 แรงม้าและแรงบิด 640 นิวตันเมตร ในโหมด overboost และรุ่น RS e-tron GT จะมีกำลังที่ 590 แรงม้าและแรงบิด 830 นิวตันเมตร ที่จะเพิ่มเป็น 637 แรงม้าและแรงบิดเท่าเดิมด้วยโหมด overboost
ทั้ง e-tron GT Quattro และ RS e-tron GT จะมีการติดตั้งมอเตอร์คู่ โดยมีมอเตอร์หนึ่งตัวสำหรับแต่ละเพลาพร้อมกระปุกเกียร์ 2 จังหวะ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น “over-boost” ที่ในข้อกำหนดของยุโรประบบนี้จะทำให้ RS e-tron เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.ใน 3.3 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 255 กม./ชม. ส่วนรุ่นพื้นฐานจะเร่งความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ใน 3.9 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดที่ 245 กม./ชม.
Audi กล่าวว่าใช้เวลาส่วนใหญ่ในการแต่งเสียงที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับ GT โดยชุดอุปกรณ์เสริม (ขึ้นอยู่กับตลาด) ประกอบด้วยชุดควบคุมและแอมพลิฟายเออร์ 2 ชุดในห้องเก็บสัมภาระ ตามที่ Audi กล่าวว่า “พวกเขาสร้างเสียงภายนอกและภายในที่แยกจากกัน ซึ่งส่งออกโดยลำโพง 2 ตัวที่อยู่ด้านนอกและด้านในรถ ข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วในการหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้า, น้ำหนักบรรทุก, ความเร็วของรถและพารามิเตอร์อื่นๆทำหน้าที่เป็นพื้นฐานสำหรับเสียงดิจิทัล ซึ่งเป็นเสียงสังเคราะห์ที่ให้ความรู้สึกที่แท้จริงและละเอียดอ่อนของงานที่ทำโดยระบบขับเคลื่อน"ระบบกันสะเทือนนั้นเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น โดยใช้อะลูมิเนียมในส่วนประกอบและ e-tron GT ได้ใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบกลไกไฟฟ้า ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คงความรู้สึกสปอร์ต
ส่วนรุ่น RS จะได้รับระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ตามมาตรฐาน แต่ยังคงเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ e-tron GT Quattro ที่ระบบกันสะเทือนนี้สามารถปรับให้ต่ำลงหรือยกรถขึ้นได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ช่วงล่างที่ควบคุมซึ่งเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นยังทำงานควบคู่กับระบบจัดการไดนามิก Audi Drive Select โดยมีโหมดให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ Comfort, Efficiency, Dynamic และ Individual ที่จะสั่งการให้ระบบกันสะเทือน, มอเตอร์ไฟฟ้าระบบเกียร์ 2 จังหวะและระบบล็อกเฟืองท้ายที่ควบคุมได้มารวมกันเพื่อให้การขับขี่ที่แตกต่างกัน ลักษณะตามที่คาดไว้
นอกจากนี้ e-tron GT ยังมาพร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวทุกล้อที่เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งจะเปลี่ยนล้อหลังไปในทิศทางตรงกันข้ามด้วยความเร็วต่ำและในทิศทางเดียวกันที่ความเร็วมากกว่า 50 กม./ชม.
นอกจากนี้สถาปัตยกรรมแบตเตอรี่แบบแบนของ e-tron GT ยังหมายความว่าแบตเตอรี่ถูกวางไว้ในรถให้ต่ำลง เพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่คาดว่าจะดีกว่าแม้แต่ซูเปอร์คาร์อย่าง Audi R8
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนั้นเหมือนกันทั้งในรุ่น RS และ quattro ที่เป็นแบตเตอรี่ขนาด 86 kWh และเช่นเดียวกับ Porsche Taycan ด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V แบบใหม่ ที่จะช่วยให้ e-tron GT สามารถชาร์จที่ 270 kW ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยใช้เครื่องชาร์จแบบเร็ว DC ทำให้สามารถเติมแบตเตอรี่ได้จาก 5-80% ในเวลาเพียง 22.5 นาที ซึ่งเป็นอัตราการชาร์จที่เร็วที่สุดในปัจจุบันของรถยนต์ไฟฟ้าใดๆ ทั้งยังทำให้สามารถชาร์จไฟได้ถึง 100 กม. ในเวลาเพียง 5 นาที
Audi e-tron GT มีฐานล้อ 2,900 มม. ความยาว 4,990 มม. ความกว้าง 1,960 มม.และคงไว้ซึ่งรถดีไซน์ Coupe ด้วยหลังคาสูงเพียง 1,410 มม. ช่องเก็บสัมภาระท้าย 405 ลิตรและช่องเก็บสัมภาระที่ 2 ด้านล่างฝากระโปรงหน้าที่มีพื้นที่อีก 81 ลิตร
Audi e-tron GT จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในช่วกลางปีนี้ โดยจะมีจำหน่ายใน 3 รุ่น ได้แก่ GT quattro Premium Plus ในราคา $99,900 หรือราวๆ 2.9 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย, GT quattro Prestige ราคา $107,100 หรือราวๆ 3.2 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยและ RS GT ราคา $139,900 หรือราวๆ 4.1 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย ซึ่งการผลิตจะเกิดขึ้นที่ Audi BöllingerHöfe ที่เมือง Neckarsulm ในประเทศเยอรมนี
สนใจ ทะเบียนสวย ทะเบียนมงคล ทะเบียน VIP ให้สมศักดิ์ศรีรถหรูๆ คลิกที่นี่ได้เลย www.tabienrodvip.com